บางวันพอผมตื่นเช้าขึ้นมาเตรียมตัวไปโรงเรียนผมจะรู้สึกสดใสกว่าปกติ แค่เรื่องเล็ก ๆ ก็ทำให้ผมตื่นเต้นขึ้นมาได้ และบางทีผมก็รีบแวะไปซื้ออาหารเช้าที่ร้านสะดวกซื้อชั้นล่างก่อนพุ่งตรงไปยังห้องเรียน ถึงแม้ว่าอาหารที่ผมซื้อจะเป็นอาหารง่าย ๆ ราคาถูกเพียงไม่กี่ร้อยเยนเท่านั้น แต่ผมก็มักเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพอยู่เหมือนกันนะครับ แล้ววันนี้จะกินอะไรดี ข้าวปั้นโอนิกิริดีมั้ย? หรือขนมปังดีนะ?

พนักงานร้านสะดวกซื้อมักจะกดเครื่องคิดเงินอย่างใส่ใจแต่รวดเร็วฉับไวอยู่เสมอ คุณคงเคยมีประสบการณ์เข้าร้านสะดวกซื้อเป็นประจำจนพนักงานจำหน้าได้และทักทายคุณเป็นภาษาญี่ปุ่นง่าย ๆ ในระหว่างคิดเงิน พอเสร็จแล้วพนักงานคนนั้นก็ส่งท้ายว่า “เดินทางปลอดภัยนะคะ” ก่อนที่เราจะขี่จักรยานออกไป

ผมกำลังมุ่งตรงไปยังมหาวิทยาลัยครับ เวลาเดินทางไปมหาวิทยาลัยภาพทิวทัศน์ที่คุณเห็นเป็นยังไงกันบ้าง ผมออกจากร้านสะดวกซื้อแล้วก็ปั่นจักรยานผ่านศาลเจ้าขนาดเล็กที่ตั้งอยู่เงียบ ๆ ในละแวกบ้านเรือน เป็นศาลเจ้าที่มีหลังคาเล็ก ๆ กับเหล้าที่มีผู้คนนำมาถวายวางไว้อยู่ ทุกเช้าจะมีคุณยายคอยมาดูแลทำความสะอาด และเมื่อทำความสะอาดเสร็จคุณยายก็จะพนมมือไหว้ศาลเจ้าเป็นประจำ

พอปั่นจักรยานต่อไปอีกหน่อยก็จะผ่านร้านดังในละแวกนี้ เป็นร้านลูกอมที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องเล่าโบราณที่คนละแวกนี้เล่าสืบต่อกันมา ร้านนี้มีลูกอมที่เรียกกันว่า “ลูกอมวิญญาณเลี้ยงเด็ก” ขายครับ ในตำนานที่เล่ากันนั้นมีตัวละครหลักเป็นหญิงสาวกับทารก หญิงสาวเสียชีวิตตั้งแต่ปี 1599 แต่ดูเหมือนว่าเธอนั้นได้คลอดลูกออกมาหลังจากที่มีพิธีผังศพเธอไปเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวได้กลายเป็นวิญญาณเลี้ยงดูทารกจนกระทั่งมีคนมาพบเด็กคนนั้น วิญญาณของแม่ทารกได้ซื้อลูกอมร้านนี้ให้กับลูก และตามตำนานลูกของหญิงสาวได้เติบโตขึ้นกลายเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ชาวบ้านจึงเรียกลูกอมนั้นว่า “ลูกอมที่ทำให้เด็กเติบโตแข็งแรง” ตำนานนี้เป็นเรื่องที่เล่าขานสืบต่อกันมานานหลายพันปี เป็นตำนานท้องถิ่นที่หากไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ก็อาจไม่มีทางได้ยินมาก่อนเลย

พอปั่นผ่านโรงอาบน้ำที่คุณเองก็ใช้บริการเป็นครั้งคราว ผมก็มาถึงบริเวณริมแม่น้ำคาโมะ ที่นี่ตอนเช้าและตอนเย็นจะมีคนวิ่งจ๊อกกิ้งและปั่นจักรยานสวนกันไปมาเป็นจำนวนมาก และบริเวณต้นน้ำขึ้นไปทางเหนือนั้นก็มักจะมีนักศึกษามาซ้อมเครื่องดนตรีกันอยู่

ที่บริเวณสะพานโกะโจ (Gojo Ohashi) ผมปั่นจากถนนใหญ่ลงไปที่ทางเดินเลียบแม่น้ำคาโมะ สภาพของสะพานโกะโจทุกวันนี้ที่รถและผู้คนคนสัญจรไปมา คงไม่เหมือนกับสมัยเฮอัน (ค.ศ. 794-1185) ตอนปลายที่สะพานแห่งนี้เคยมีการประลองในตำนานเกิดขึ้นแน่ ๆ

ตำนานดังกล่าวเป็นเรื่องราวของเบนเค (Benkei) บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ซึ่งพระนักรบที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงไร้เทียมทาน เบนเคจะคอยท้าประลองกับซามูไรที่เดินทางผ่านสะพานโกะโจ และเมื่อชนะก็จะยึดเอาดาบของซามูไรเหล่านั้นไปเป็นรางวัลการประลอง และตอนที่เขากำลังสะสมดาบใกล้ครบ 1,000 เล่มตามเป้าหมาย ขาดอยู่อีกเพียงเล่มเดียวเท่านั้น เขาได้พบกับชายคนหนึ่งที่เป่าขลุ่ยและพกดาบทองคำไว้ที่เอว ชายคนนั้นคืออุชิวะคามารุ (Ushiwakamaru) ผู้ซึ่งต่อมาภายหลังได้กลายเป็นมินะโมโต โยชิทสึเนะ (Minamoto Yoshitsune) เบนเคได้ท้าประลองกับอุชิวะคามารุด้วยหวังที่จะช่วงชิงดาบของเขา แต่แล้วสุดท้ายเขาก็ถูกอุชิวะคามารุสังหาร

อันที่จริงตอนที่มีการประลองกัน สะพานโกะโจตั้งอยู่เลยขึ้นมาทางทิศเหนือจากที่ตั้งปัจจุบันเล็กน้อย อยู่บริเวณเดียวกับสะพานมัทสึฮาระ (Matsuhara-bashi) ในปัจจุบัน แต่ผู้คนก็จดจำเรื่องราวดังกล่าวจากรูปปั้นของทั้งสองคนที่ตั้งอยู่บริเวณถนนโกะโจมาเป็นเวลาเนิ่นนาน

พอปั่นจักรยานผ่านทางเรียบแม่น้ำคาโมะมาก็จะเจอนกยางและนกกาน้ำ เป็นทิวทัศน์ดีเยี่ยมสำหรับการปั่นจักรยานไปมหาวิทยาลัยเช้าเย็น นอกจากนั้นในฤดูใบไม้ผลิก็จะมีซากุระบานเต็มริมฝั่งแม่น้ำ และในฤดูใบไม้ร่วงก็สามารถเพลิดเพลินกับสีสันของใบไม้แดงได้ด้วยเช่นกัน